ที่ปรึกษาธุรกิจ ไม่สามารถเข้าใจธุรกิจได้เท่าตัวคุณเอง แต่เราสามารถให้คำปรึกษาในการเขียนแผนธุรกิจ แผนการตลาด แผนบริหารจัดการความเสี่ยง การเริ่มต้นทำธุรกิจไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณมีที่ปรึกษาธุรกิจที่ช่วยคุณให้เริ่มต้นธุรกิจง่ายๆ
ก่อนให้คำปรึกษาธุรกิจ เราจำเป็นต้องรู้ว่าคุณจะทำธุรกิจอะไร หรือ วางแผนจะทำธุรกิจอะไร ถ้าคุณยังไม่รู้จะเริ่มจากไหน ลองเริ่มจากสิ่งที่คุณชอบ สิ่งใกล้ๆตัว หรือสิ่งที่คุณคิดว่าเป็นปัญหาใกล้ๆตัวก่อน เช่น แถวบ้านมีลานออกกำลังกาย แต่ไม่มีที่ขายเครื่องดื่ม คุณอาจจะลองเปิดร้านเครื่องดื่มเล็กๆ เป็นรายได้เสริมได้
แต่ถ้าหากคุณต้องการวางแผนธุรกิจในระดับใหญ่หรือระดับองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มต้นธุรกิจหรือพัฒนาธุรกิจเดิมที่มีอยู่แล้ว เราสามารถให้คำปรึกษาเบื้องต้นได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ!
และถ้าหากคุณอยากเริ่มทำแผนด้วยตัวคุณเอง เรามีบริการที่ปรึกษาธุรกิจแบบรู้ใจ เราจะเข้าไปนั่งทำแผนธุรกิจกับคุณ ช่วยคุณคิดโมเดลธุรกิจ และคุณยังจะได้แผนธุรกิจกลับบ้านไปเลย ไม่ว่าจะเป็นแผนธุรกิจ sme แผนการตลาด หรือ แผนธุรกิจ startup ถ้าคุณสนใจ สามารถติดต่อได้ที่ Line – @eustonconsulting
เราคือที่ปรึกษาธุรกิจมืออาชีพที่พร้อมช่วยให้คุณและธุรกิจของคุณเติบโตไปพร้อมกัน
การทำการตลาดโดยใช้ Customer Journey จะเป็นตัวแปรสำคัญที่เราสามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุดมากขึ้น สิ่งที่เราต้องลองมองในภาพกว้างๆว่า ลูกค้าต้องการอะไร ก่อนที่จะพิจารณาว่า เราจะเสนอขายอะไรให้ลูกค้ส
หลักการง่ายนิดเดียวค่ะ ถ้าเราสามารถตอบคำถามว่าลูกค้าต้องการอะไร เราจะสามารถทำแผนการตลาดให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้ง่ายขึ้น โดยปกติเราจะเริ่มจากการสร้าง Persona หรือตัวอย่างลูกค้าขึ้นมาเพื่อที่จะทำให้เราโฟกัสกับตัวลูกค้า เพื่อการสร้างแผนธุรกิจหรือแผนการตลาดได้ง่ายขึ้ย
ดังนั้น สิ่งแรกที่เราจะต้องหาคือ อะไรคือปัญหาหลักของลูกค้า และสินค้าของเราจะตอบคำถามได้ยังไง แผนการตลาดที่จะเจาะกลุ่มลูกค้าเหล่านี้ต้องชัดเจน ตรงเป้าหมายและว้าว!
ถ้าคุณยังคิดไม่ออกว่าควรเริ่มต้นจากตรงไหน ปรึกษาเราได้ที่ไลน์ @eustonconsulting
แนวทางการสร้าง marketing plan หรือที่ภาษาไทยเรียกว่าแผนการตลาดนั้น ไม่ได้มีกฎตายตัวว่าจะต้องเขียนในรูปแบบไหน มีเนื้อหาอะไรบ้าง แต่หลักๆแล้ว marketing plan จะประกอบด้วย
1. environment analysis หรือ การวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อการตลาด
2. marketing strategy หรือ กลยุทธ์การตลาด
3. financial analysis หรือ การวิเคราะห์ด้านการเงิน
4. control and implementation หรือ การควบคุมและปฏิบัติตามแผน
Environment analysis
หลักการเขียน Environment analysis นั้นนิยมวิเคราะห์โดยอาศัยเครื่องมือที่เรียกว่า PESTEL, Porter’s five forces, SWOT & TOWS และ Competition gap เครื่องมือเหล่านี้จะเป็นตัวชี้วัดว่าจากสภาพแวดล้อมในปัจจุบันนั้นจะส่งผลกระทบอย่างไรกับธุรกิจที่เรากำลังวิเคราะห์อยู่ โดยเป็นการพิจารณาทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก เช่น
PESTEL ประกอบด้วย Political, Economical, Social, Technology, Environment และ Legal
Porter’s five forces ประกอบด้วย อำนาจต่อรองของผู้ซื้อหรือลูกค้า, อำนาจต่อรองของ Supplier, คู่แข่งในตลาด, การเข้ามาในตลาดของธุรกิจใจ และ สินค้าทางเลือก
SWOT & TOWS ประกอบด้วย จุดแข็ง, จุดอ่อน, โอกาส และ ความเสี่ยงหรือภัยคุกคาม
Competition gap คือ การหาช่องว่างในตลาดของธุรกิจใหม่ โดยการวิเคราะห์คู่แข่งว่ามีข้อดีข้อเสียอย่างไร